วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ข้อสอบ O-Net

1. ซอฟต์แวร์ คือ
ก. โปรแกรมชุดของคำสั่งที่ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์
ข. อุปกรณ์เทคโนโลยีระดับสูง
ค. โปรแกรมแก้ปัญหาทุกอย่างของมนุษย์
ง. อุปกรณ์ที่ทำหน้าเสมือนสมองกล
2. ข้อใดไม่ใช่ระบบปฏิบัติการ
ก. ระบบปฏิบัติการดอส
ข. ระบบปฏิบัติการไมโครซอฟท์เวิร์ด
ค. ระบบปฏิบัติการไมโครซอฟต์วินโดวส์
ง. ระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์
3. ชนิดของซอฟต์แวร์ (software) มีทั้งหมดกี่ชนิด
ก. มี 1 ชนิด 1.ซอฟต์แวร์ระบบ
ข. มี 2 ชนิด 1.ซอฟต์แวร์ระบบ 2.ซอฟต์แวร์ประยุกต์
ค. มี 3 ชนิด 1.ซอฟต์แวร์ระบบ 2.ซอฟต์แวร์ ประยุกต์ 3.ซอฟต์แวร์บุคคล
ง. มี 4 ชนิด 1.ซอฟต์แวร์ระบบ 2.ซอฟต์แวร์ประยุกต์ 3.ซอฟต์แวร์บุคคล 4. ซอฟต์แวร์ บริหาร
4. ซอฟต์แวร์ประมวลคำ คือข้อใด
ก. word processing software
ข. spreadsheet software
ค. database management software
ง. presentation software
5. ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน
ก. word processing software
ข. spreadsheet software
ค. database management software
ง. presentation software
6. ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูล
ก. word processing software
ข. spreadsheet software
ค. database management software
ง. presentation software
7. ซอฟต์แวร์นำเสนอ
ก. word processing software
ข. spreadsheet software
ค. database management software
ง. presentation software
8. ซอฟต์แวร์สื่อสาร
ก. word processing software
ข. spreadsheet software
ค. database management software
ง. communication software
9. ซอฟต์แวร์นำเสนอ คือข้อใด
ก. Microsoft Excel
ข. Microsoft Access
ค. Microsoft Outlook
ง. Microsoft PowerPoint
10. โปรแกรมวินโดวส์ เป็นซอฟต์แวร์ประเภทใด
ก. ซอฟต์แวร์ระบบ
ข. ซอฟต์แวร์ประยุกต์
ค. ซอฟต์แวร์สำเร็จ
ง. ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นใช้งานเฉพาะ

วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

PHP คืออะไร


ในช่วงแรกภาษาที่นิยมใช้งานบนระบบเครือข่าย คือ ภาษา HTML (Hypertext Markup Language) แต่ภาษา HTML มีลักษณะเป็น Static คือ ภาษาที่มีลักษณะของข้อมูลคงที่ ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการในปัจจุบันที่นิยมใช้ระบบเครือข่าย Internet เป็นศูนย์กลางในการติดต่อระหว่างกัน ทำให้ต้องการใช้เว็บไซต์ที่มีลักษณะเป็นแบบ Dynamic คือ เว็บไซต์ที่ข้อมูลสามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยอัตโนมัติตามเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ผู้เขียนเว็บไซต์เป็นผู้กำหนด และการควบคุมการทำงานเหล่านี้จะกระทำโดยโปรแกรมภาษาสคริปต์ เช่น ภาษา PHP ซึ่งเป็นภาษาหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน


PHP ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1994 โดย Rasmus Lerdorf ต่อมามีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก จึงได้ออกเป็นแพ็คเกจ "Personal Home Page" ซึ่งเป็นที่มาของ PHP โดยภาษา PHP เป็นแบบ Server Side Script และเป็น Open Source ที่ผู้ใช้ทั่วไปสามารถดาวน์โหลด Source Code และโปรแกรมไปใช้ฟรี ได้ที่ http://www.php.net 


พอกลางปี ค.ศ.1995 เขาก็ได้พัฒนาตัวแปลภาษา PHP ขึ้นมาใหม่ โดยใช้ชื่อว่า PHP/FI เวอร์ชั่น 2 ซึ่งได้เพิ่มความสามารถในการรับข้อมูลที่ส่งมาจากฟอร์มของ HTML (จึงมีชื่อว่า FI หรือ Form Interpreter) นอกจากนั้นยังเพิ่มความสามารถในการติดต่อกับฐานข้อมูลอีกด้วย จึงทำให้ผู้คนเริ่มหันมาสนใจ PHP กันมากขึ้น 

ในปี 1997 มีผู้ร่วมพัฒนา PHP เพิ่มอีก 2 คน คือ Zeev Suraski และ Andi Gutmans (กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า Zend ซึ่งย่อมาจาก Zeev และ Andi ) โดยได้แก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ และเพิ่มเติมเครื่องมือให้มากขึ้น

วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

โครงสร้างของภาษาPHP

     การเปิดปิดแท็ก PHP  (PHP Code Syntax)

รูปแบบแท็ก
เปิดแท็ก PHP
ปิดแท็ก PHP
แบบมาตรฐาน
<?php
?>
แบบสั้น
<?
?>
แบบ ASP
<%
%>
แบบ Script
<script  language="PHP">
</script>

           รูปแบบคำสั่ง  (PHP Statement)
<HTML>
<BODY>
  <?php
    echo "Hello, World!!”;
   ?>
</BODY>
</HTML>

           ตัวแปร  (Variables)
o      การประกาศตัวแปร
§       การประกาศตัวแปรเริ่มต้นด้วยเครื่องหมาย  $  (Dollar sign)
§       ชื่อตัวแปรต้องเริ่มต้นด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษหรือเครื่องหมายขีดล่าง (underscore "_")
§        ตัวอย่างการประกาศตัวแปรที่ถูกต้อง:
$total
$_cell1
$length_of_string
§        ตัวอย่างการประกาศตัวแปรที่ผิด:                      
total
$1_total
$2_length
o      การกำหนดค่าให้ตัวแปร
§       กำหนดค่าเป็นตัวเลข:
<?php
$total = 10;
?>
§       การกำหนดค่าเป็นข้อความ (string) ให้ใช้ quotes (") หรือ single quote ('):
<?php
$example1 = 'This is a single quoted string';
$example2 = "This is a double quoted string";
?>
§       ข้อแตกต่างระหว่าง quotes (") กับ single quote ('):
<php
$total = 10; 
$example1 = 'The total is $total';
$example2 = "The total is $total";
?>
ผลการกำหนดค่าให้ตัวแปร $example1:     "The total is $total"
ผลการกำหนดค่าให้ตัวแปร
 $example2:     "The total is 10"
§       การนำข้อความ (string) มาเชื่อมต่อกันโดยใช้จุด "." :
<php
$a = 'apples';
$b = 'bananas';
$c = '';                    
$c = $a . ' and ' . $b;
?>
ผลการกำหนดค่าให้ตัวแปร  $c:      "apples and bananas"
§       การนำข้อความ (string) มาเชื่อมต่อกันโดยใช้ ".=" :
<php
$a = 'apples';                      
$a .= ' and bananas';
?>

ผลการกำหนดค่าให้ตัวแปร  $a:      "apples and bananas"

อักขระต้องห้าม  (Escaping Characters)

Character
Escaped Character
Description
ไม่มี
\n
Adds a linefeed
ไม่มี
\r
Adds a carriage return
ไม่มี
\t
Adds a tab
\
\\
Backslash
$
\$
Dollar Sign
"
\"
Double Quote

 ตัวดำเนินการ  (Operators)

Operator
ความหมาย
==
เท่ากับ (Equal to)
!=
ไม่เท่ากับ (Not equal to)
<> 
ไม่เท่ากับ (Not equal to)
น้อยกว่า (Less than)
มากกว่า (Greater than)
<=
น้อยกว่าหรือเท่ากับ (Less than or equal to)
>=
มากกว่าหรือเท่ากับ (Greater than or equal to)


           ภาษา PHP มีลักษณะเป็น embedded script หมายความว่าเราสามารถฝังคำสั่ง PHP ไว้ในเว็บเพจร่วมกับคำสั่ง(Tag) ของ HTML ได้ และสร้างไฟล์ที่มีนามสกุลเป็น .php, .php3 หรือ .php4 ซึ่งไวยากรณ์ที่ใช้ใน PHP เป็นการนำรูปแบบของภาษาต่างๆ มารวมกันได้แก่ C, Perl และ Java ทำให้ผู้ใช้ที่มีพื้นฐานของภาษาเหล่านี้อยู่แล้วสามารถศึกษา และใช้งานภาษานี้ได้ไม่ยาก

ตัวอย่างที่ 1
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
<html>
<head>
<title>Example 1 </title>
</head>
<body>

<?
   echo"Hi, I'm a PHP script!";
?>

</body>
</html>

            จากตัวอย่าง บรรทัดที่ 6 - 8 เป็นส่วนของสคริปต์ PHP ซึ่งเริ่มต้นด้วย <? ตามด้วยคำสั่งที่เรียกฟังก์ชั่นหรือข้อความ และปิดท้ายด้วย ?> สำหรับตัวอย่างนี้เป็นสคริปต์ที่แสดงข้อความว่า "Hi, I'm a PHP script" โดยใช้คำสั่ง echo ซึ่งเป็นคำสั่งที่ใช้ในการแสดงผลของภาษาสคริปต์ PHP ซึ่งจะแสดงผลดังนี้
Hi, I'm a PHP script!

ตัวอย่างที่2
เราสามารถฝังคำสั่ง PHP ไว้ในเว็บเพจหนึ่งๆ โดยเปิดและปิดด้วยแท็ก(Tag) ของ PHP กี่ครั้งก็ได้ ดังตัวอย่างต่อไปนี้


2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
<html>
<head>
<title>Example 1 </title>
</head>
<body>

<table border=1>
<tr>
<td>
<? echo"PHP script block 1"; ?></td>
<td>
<? echo"PHP script block 2 "; ?></td>
</tr>
</table>

<?
   echo"PHP script block 3 <br> ";
   echo date("ขณะนี้เวลา H:i น.");
?>

</body>
</html>